เคสผ่าตัดขากรรไกร
ผ่าตัดที่ โรงพยาบาลอียู (eu oral & maxillofacial surgery)
ก่อนผ่าตัด
ฉันเป็นคนที่มีโหนกแก้มสูง และมีอาการปากยื่นออกมาค่ะ
และใบหน้า2ข้างไม่เท่ากัน เวลาถ่ายรูปรู้สึกเครียดมากๆ เลยค่ะ
ไม่เคยถ่ายรูปที่เห็นหน้าชัดๆ เลยค่ะ ส่วนมากใช้มือบังหน้า หรือถ่ายรูปให้เห็นครึ่งหน้าค่ะ
ตอนที่กำลังศึกษาหาโรงพยาบาลอยู่ พี่สาวบอกคุณแม่ว่าอยากผ่าตัดที่อียู เลยขออนุญาตคุณแม่ผ่าตัด
ตอนพี่สาวกลับมาจากโรงพยาบาล หน้าไม่บวมและช้ำอย่างที่คิดไว้เลยค่ะ
อาการบวมก็ลดลงไวมาก โครงหน้าเล็กลงและดูธรรมชาติมากเลยค่ะ
เลยได้เข้ามาปรึกษากับคุณหมอคิม คุณหมอและที่ปรึกษาน่ารักมากอธิบายให้อย่างละเอียด
และเป็นโรงพยาบาลที่พี่สาวผ่าตัดทำให้รู้สึกเชื่อใจเลยตัดสินใจผ่าตัดที่นี้ค่ะ
วันผ่าตัด
วันนี้รู้สึกตื่นเต้นและกลัวมากเลยค่ะ พอตอนที่คุณหมอกำลังวางยา
ได้ยินคุณหมอพูดว่าอาจรู้สึกเวียนหัวได้แล้วหลับไปตื่นมาอีกทีอยู่ที่ห้องพักแล้วค่ะ
พอจะขยับตัวรู้สึกเวียนหัวมาก และหายใจไม่ค่อยออกเลยค่ะ
ที่จมูกและในปากมีเลือดออกมารู้สึกอึดอัดมากเลยค่ะ
วันที่ 1
อยากติดต่อไปหาที่บ้าน แต่รู้สึกปวดหัวมากเลยไม่ได้ติดต่อไปเลยค่ะ
และต้องไปทำเลเซอร์ลดบวมพอนอนลงบนเตียงรู้สึกหายใจไม่ออกเลย ไมได้ทำเลยค่ะ
วันที่ 2
วันนี้หายใจได้สะดวกกว่าเมื่อวานแล้วค่ะ สามารถพูดได้นิดหน่อยค่ะ
คุณหมอได้เช็ดแผลฆ่าเชื้อให้ และได้ดูดน้ำมูกในจมูกออกให้ด้วยค่ะ แต่ก็ช่วยได้แค่แปบเดียวค่ะ
วันที่ 3
กลับบ้านมาก็นอนไม่หลับเหมือนเดิมค่ะ เวลาผ่านไปช้ามากเลยค่ะ
ตอนใส่ที่รัดหน้ายิ่งทำให้หายใจไม่ออกรู้สึกทรมานมากเลยค่ะ
ได้แต่ประคบเย็นที่หน้าให้หายบวมไวๆ ค่ะ หลังผ่าตัดครบ3วัน
สามารถแกะเอาเทปสีขาวใต้คางออกได้ เลยเอาน้ำมาทาแล้วค่อยๆ แกะออก
พอแกะออกเสร็จก็ได้ให้พี่สาวมาช่วยอาบน้ำค่ะ
วันนี้หิวมากเลยกินครีมซุป อร่อยมากเลยค่ะ เริ่มอ้าปากได้ทีละนิดแล้วค่ะ
วันที่ 4
ตอนนี้หายใจได้สะดวกขึ้นเยอะเลยค่ะ พี่สาวบอกว่าเหมือนอาการบวมที่หน้ามาเยอะมาก
ตั้งแต่วันนี้ไม่ต้องประคบเย็นแล้ว เลยพยายามใส่ๆ ถอดๆ ที่รรัดหน้าอยู่ค่ะ
เวลาแปรงฟันก็ใช้แปรงของเด็กแปรงฟันค่ะ
วันที่ 6
ตอนนี้สามารถหายใจทางจมูกได้แล้วค่ะ
เลยออกไปเดินเล่นข้างนอกก็ไม่เหนื่อยเหมือนตอนแรกๆ แล้วค่ะ
แต่ที่รัดหน้ายังไปอะไรที่ทรมานจริงๆ ค่ะ ที่รัดหน้าต้องใส่ครบ7วัน แต่ไม่ค่อยได้ใส่เลยแอบกังวลค่ะ
วันที่ 7
วันนี้ได้ตัดไหมที่โหนกแก้มแล้วค่ะ ได้ยินกันว่าไม่ค่อยเจ็บมาก
ก็เลยไม่ค่อยกลัวเท่าไรค่ะ เจ็บนิดเหมือนโดนดึงขน
และได้เช็ดแผลในปากเจ็บกว่าเยอะเลยค่ะ ตอนนี้หายใจได้สะดวกขึ้นทำเลเซอร์ลดบวมได้แล้วค่ะ
วันที่ 8
รู้สึกหน้าเรียวขึ้นเยอะเลยค่ะ ช่วงนี้รู้สึกหิวมากเลยค่ะ
เห็นคนที่เขียนรีวิวกินขนมปังกับซุป เลยลองกินตามดู
กินขนมปังไปได้ครึ่งแผ่น อร่อยมากเลยค่ะ แต่อยากกินอาหารอร่อยกว่านี้ได้แล้วค่ะ
วันที่ 15
หลังจากตัดไหมในปากได้แล้วอาการตึงดีขึ้นแล้วค่ะ
ก่อนที่จะได้ตัดไหมเวลากินข้าวรู้สึกลำคานมากเลยค่ะ โดยเฉพาะตอนกินข้าว
พอไม่มีไหมสบายขึ้นเยอะเลยค่ะ และคุณหมอบอกว่าต้องฝึกอ้าปาก บริหารกล้ามเนื้อปาก
เพื่อที่จะได้กลับมาอ้าปากกว้างๆ ได้เหมือนเดิมค่ะ
วันที่ 16
นอกจากยังเคี้ยวอาหารไม่ได้ อย่างอื่นไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ
ที่หน้ายังรู้สึกชาๆ อยู่ค่ะ แต่ไม่เจ็บเลยค่ะ
วันที่ 18
และที่ใต้ตารอยช้ำสีม่วงหายไปหมดแล้วค่ะ เหลือแต่รอยช้ำสีเหลืองๆ เท่านั้น
ถ้าแต่งหน้าก็แทบจะไม่เห็นเลยค่ะ
เพื่อนๆ ชมว่าหน้าสวยขึ้น ขนาดยังมีอาการบวมอยู่ รู้สึกดีใจมากเลยค่ะ
วันที่ 21
อยากให้อาการบวมลดลงไวๆ จะได้แต่งหน้าสวยๆ สักที
วันที่ 23
วันตรุษจีนได้ไปบ้านที่คังวอนโดมาค่ะ ได้กินซุปต๊อก และมาม่า
พอถ่ายรูปหน้าดูบวมขึ้นเลยค่ะ ช่วงนี้เพราะไวรัสโคโรน่า
ตอนออกไปข้างนอกต้องใส่หน้ากากปิดปาก
ก่อนที่ผ่าตัดเวลาใส่หน้ากากปิดปากก็ยังเห็นโหนกแก้ม ตอนนี้ไม่เห็นแล้วค่ะ
วันที่ 28
วันนี้ได้มาเอาสกรูออกด้วยค่ะ รู้สึกเจ็บนิดๆแต่พอทนได้ค่ะ
เวลายิ้มไม่ร็มีอะไรเกี่ยวปากด้านในแล้วค่ะ
แต่ต้องระวังตอนแปรงฟันและไม่ให้เศษอาหารเข้าไปติดด้านใน
วันที่ 30
ถ้าดูรีวิวคนอื่น ผ่านไปแค่เดือนเดียวทุกคนหน้าลดบวมลงกันเยอะมาก
ตอนนี้ที่แก้มยังเหลืออาการบวมอยู่ค่ะ ตอนนี้ชอบหน้าด้านข้างของตัวเองมากเลยค่ะ
รูปโครงหน้าตอนนี้ดูสวยมาก พอใจมากเลยค่ะ อยากให้อาการบวมลดลงไวๆจัง
วันที่ 34
ช่วงนี้รู้สึกอาการบวมดีขึ้นเยอะเลยค่ะ อาการบวมใหญ่ลดลงเกือบหมดแล้วค่ะ แต่ยังรู้สึกชาๆ
ความรู้สึกยังกลับมาไม่หมดค่ะ เวลาเคี้ยวอาหารชอบเคี้ยวแบบจุดตรงกลางฟันเบี้ยว
เลยต้องดูกระจกและฝึกเคี้ยวค่ะ แต่ไม่ง่ายเลยค่ะ
วันที่ 36
ก่อนผ่าตัดลักษณะหน้าตาเป็นคนดุๆ แต่ตอนนี้ดูเป็นคนโอนโยน และหน้าเล็กลงเยอะเลยค่ะ
และช่วงนี้ชอบเปรียบเทียบหน้ากับพี่สาว ขนากหน้ายังบวมอยู่ แต่ก็ดีกว่าก่อนเยอะเลยค่ะ
วันที่ 38
ก่อนผ่าตัด สีลิปทาปากที่เคยไม่เข้ากับตัวเอง หลังผ่าตัดทาสีไหนก็ดูสวยไปหมดเลยค่ะ
เมื่อก่อนตัดผมไว้หน้าม้าตลอดตอนนี้ไม่มีหน้าม้า หน้าก็ดูไม่ใหญ่แล้วค่ะ
วันที่ 43
ตอนนี้ไม่ต้องใส่เวเฟอร์แล้ว ใส่ยางยึดแทนค่ะ เพราะอาการบวมยังลดลงไม่หมด
การใส่ยางด้านในยากมาดเลยค่ะ แต่คุณหมอบอกต้องใส่ยางยึดเลยจำเป็นต้องฝึกไว้ค่ะ
เพราะยังเหลือเวลาก่อนที่ขึ้นรถบัส ได้ไปเดินดูหมวก
วันที่ 45
วันนี้ได้ออกมาเที่ยวกับเพื่อนหลังจากที่ไม่ได้ออกมาจากบ้านนานแล้วค่ะ
ทุกคนทักว่าหน้าเล็กลงมาก แทบดูไม่ออกเลยว่าผ่าตัดขากรรไกรมา
ดูเป็นธรรมชาติ ไม่มีรอยแผลเป็นเลยค่ะ เล่นโบลิ่งได้ไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ
หมายเหตุ ภาพ Before After บนเว็บไซต์ Oppa Me ทั้งหมด ผลลัพธ์ขึ้นอยู่แต่ละบุคคลแตกต่างกันออกไป และราคาหรือโปรโมชั่นศัลยกรรมและความงามอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าก่อนรับบริการ สามารถอ่านเงื่อนไขได้ที่ เงื่อนไขการให้บริการ
Comments